การดูแลตัวเองกับช่วง "อากาศแปรปรวน"
เป็นสิ่งที่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษมากขึ้น
เพราะร่างกายต้องการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ
ช่วงนี้ฤดูฝนกำลังพัดผ่านเข้ามาแล้ว
มาพร้อมกับชุ่มชื่นและความชื้นแฉะ
เปิดโอกาสให้เชื้อโรคหลาย ๆ ชนิดเติบโต
และแพร่กระจายได้มากขึ้นไปด้วย
อีกทั้งในฤดูฝนอากาศยังค่อนข้างเปลี่ยนแปลงได้ง่าย
เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เดี๋ยวหนาว ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน
อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยในที่สุด
ดังนั้นการดูแลสุขภาพให้ดีเพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ป่วย
วันนี้ HAPPHOUR ขอแชร์ "วิธีดูแลสุขภาพในช่วงฤดูฝน"
เพื่อสุขภาพที่ดี พร้อมรับมือกับฤดูกาลที่กำลังจะเปลี่ยนไปนะคะ
เราควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง
เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้ดีขึ้น
อย่านอนดึก เพราะยิ่งนอนดึกยิ่งลดโอกาสการหลั่ง
ของโกร๊ธฮอร์โมน (ฮอร์โมนแห่งความอ่อนเยาว์) ลงมาก
อีกทั้งการนอนดึก ยังทำให้อวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดสารพิษ
ออกจากร่างกาย เช่น ตับ ไต ทำงานได้มีประสิทธิภาพน้อยลง
ส่งผลให้มีสารพิษคั่งค้างในร่างกายมาก
แต่หากเป็นคนนอนหลับยากแนะนำให้รับประทาน
กล้วยเพราะมีสาร ทริปโตเฟน ทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
ในแต่ละวันเราควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพออย่างน้อย
วันละ 1.5 ลิตร ควรเป็นน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น
เพื่อให้รักษาสมดุลของร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ควบคุมระดับอุณหภูมิของร่างกายให้ปกติ
น้ำช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่ขาดน้ำ
และสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้ผิวหนัง
เพื่อลดโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกาย
ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
โดยเฉพาะผักและผลไม้สดที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่
เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ องุ่น สัปปะรด มะละกอ
ที่จะช่วยทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายแข็งแรง และยับยั้งการเกิดโรคได้
และทานอาหารที่มีฤทธิ์ร้อนเพื่อเพิ่มความอบุ่นให้ร่างกาย เช่น
ขิง ข่า กระเทียม พริกไทย ดอกดีปลี ตะไคร้
และที่สำคัญเวลารับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
ควรใช้ช้อนกลางทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดต่อของโรคนะคะ
ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย
วันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-4ครั้ง
เช่นการเต้นแอโรบิค การเดินเร็ว ๆ การวิ่งเหยาะ
การขี่จักรยาน หรือการเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันโรค
ร่างกายที่แข็งแรงย่อมห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ
อย่าลืมพกพาร่มและเสื้อกันฝนเพื่อไม่ให้ร่างกายเปียกฝน
จะสามารถลดการอับชื้น และการสะสมเชื้อรา
ทำให้ไม่สบายตัวและนำไปสู่การเป็นหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ได้
แนะนำให้เลือกสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อบางเบา ระบายอากาศได้ดี
เพราะหากเปียกฝนจะทำให้แห้งง่าย เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นเสมอ
มีภูมิต้านทานได้ดี ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ
เช่น โรคปอดบวม โรคทางผิวหนัง
หลังจากเปียกฝนมาใหม่ๆ
ควรรีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
เช็ดผมให้แห้งเพื่อให้ร่างกายเกิดความอบอุ่นนะคะ
เพราะในช่วงฤดูฝนมีหลายโรคที่ยุงเป็นพาหะออกระบาด เช่น
ไข้เลือดออกมียุงลายเป็นพาหะนำโรค
โรคมาลาเรียที่มียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค
โรคเหล่านี้อาจรุนแรงเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้นจึงทางที่ดีที่สุดควรป้องกันไม่ให้ยุงกัดได้วยการทายา
หรือโลชั่นกันยุง นอนกางมุ้ง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่อับชื้น
มืด เพราะยุงชอบ กำจัดแหล่งน้ำขังในบ้านให้หมด
เพราะเป็นที่ฟักตัวชั้นดีของยุงชนิดต่าง ๆ ได้นั่นเองค่ะ
เมื่อคัดจมูก หรือหายใจไม่สะดวก ให้ใช้น้ำมันยูคาลิปตัส
(Eucalyptus essential oil)
เพราะมีคุณสมบัติช่วยระบบทางเดินหายใจดีขึ้น
ลดเสมหะ ลดสารพิษและจุลินทรีย์
อันเป็นสาเหตุการก่อให้เกิดโรคในร่างกายได้
จึงมีฤทธิ์ทั้งในการรักษาและการป้องกันโรคนั่นเอง
วิธีใช้สำหรับแก้อาการหวัดให้หยดน้ำมันยูคาลิปตัส
ลงก้านไม้หอมปรับอากาศเพื่อสูดดมในห้องนอน
แค่หมั่นดูแลสุขภาพเป็นประจำและสม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะฤดูฝน หรือฤดูไหน ๆ รับรองว่าคุณ
จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมากวนใจแล้วค่ะ